KHONKAEN CITY BIKE TOUR: EXPLORING THE HIDDEN TOWN CHAPTER 1 : ริมบึงแก่นนคร

เรื่องโดย : พิมผกาพร พรเพ็ง

ภาพโดย : พิมผกาพร พรเพ็ง, เทวิการ์ จวงเงิน

เมื่อวันอังคาร ที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา ททท.ขอนแก่น ชวน TCDC ขอนแก่น Ko-on Bike แกงค์นักปั่นทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นมาร่วมสำรวจเส้นทาง City Bike Tour รอบบึงแก่นนคร สถานที่สำคัญของของชาวขอนแก่นที่เป็นทั้งที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ รอบบึงแก่นนครยังมีสถานที่เล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายที่อยากพาทุกคนไปรู้จักกัน ผ่านทริปปั่นจักรยานในครั้งนี้

.

ริมบึงแก่นนครจัดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย ทั้งออกกำลังกาย แอโรบิก เดินเล่น ให้อาหารปลา ไปจนถึงตลาดอาหารเย็น สร้างสีสันให้ขอนแก่นเป็นเมืองที่คึกคักอยู่เสมไม่เพียงเท่านั้น ริมบึงแก่นนครยังเต็มไปด้วยสถานศักดิ์สิทธิ์ทางความเชื่อและศาสนามากมาย ทั้งวัดพุทธ ศาลเจ้าจีน ไปจนถึงศาลเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดที่ล้วนสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของจังหวัดขอนแก่น

จักรยานคันสีเหลืองสดใส ของ Ko-on Bike ผู้ตั้งใจริเริ่มทัวร์ปั่นจักรยานในพื้นที่ขอนแก่นขึ้นมา วันนี้จะพาทุกคนออกไปปั่นจักรยานรับลมยามเย็นพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวขอนแก่นผ่านสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบบึงแก่นนคร นำทีมโดย พี่เก่ง คุณสุรพงศ์ ใจเมือง และ พี่วีน่า ธนวรรณ พันเทศ ประธานฝ่ายท่องเที่ยวสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ประธานชมรมมัคคุเทศก์ขอแก่น และเจ้าของบริษัทไทยดรีมทัวร์

.

เราเริ่มสตาร์ทจากหมู่บ้านพิมานชล 2 เพื่อออกไปยังบึงแก่นนคร สถานที่หลักของทริปปั่นในวันนี้ และยังอยู่ไม่ไกลหมู่บ้านอีกด้วย

จุดสต็อปแรกของทริปจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากวัดหนองแวงพระอารามหลวง แต่เดิมมีชื่อว่าวัดเหนือ วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวขอนแก่นที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสร้างเมือง แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องไปที่พระธาตุแก่นนครอนุสรณ์สาธุชน พระธาตุใหญ่เก้าชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ยกมือขอพรเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิต พระธาตุทั้งเก้าชั้นยังสามารถเดินขึ้นไปชมได้ แน่นอนว่าแต่ละชั้นก็จะมีข้อมูลเรื่องราวต่างกันออกไป ทั้งหอพิพิธภัณฑ์อีสาน หอพิพิธภัณฑ์สงฆ์ หอพระพุทธและหอพระะณรรม แต่ไฮไลท์อยู่ที่ชั้น 9 ยอดสุดของพระธาตุ ที่สูงจนสามารถมองเห็นวิวเมืองมุมสูงของขอนแก่นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา

ปั่นมาจากวัดหนองแวงอีกหน่อยยังไม่เริ่มหอบ เราก็มาถึงวัดกลาง เมืองเก่า ที่อุโบสถและเจดีย์ของวัดส่องแสงประกายสีเหลืองทองออกมาจนแสบตาตัดกันกับท้องฟ้ายามเย็น แต่เดิมในอดีต วัดแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางของสถานศึกษาและการบริหารบ้านเมืองของเหล่าข้าราชการ ภายในวัดยังประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอีกด้วย

ระหว่างทางไปยังจุดต่อไป ทีมเราก็ขอแวะถ่ายภาพที่หน้าสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อีกหนึ่งผู้สนับสนุนหลักในทริปปั่นครั้งนี้กันสักภาพ เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก สำหรับการสนับสนุนทริปเล็กๆครั้งนี้ให้เกิดขึ้น

จากนั้นก็ปั่นอย่างเร็วๆ แข่งกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับ ไปยังศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์ ลานโพธิ์ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านด้วยพระปรางค์สีแดงอิฐ ชวนให้คุกเข่าขอพรเพื่อเสริมโชคลาภและบารมีให้กับพวกเราทุกคน

จุดต่อไปก็คือวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด วัดธาตุ พระอารามหลวง ที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระลับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวขอนแก่น อุโบสถขนาดใหญ่ออกแบบและประดับลวดลายอย่างศิลปะไทยในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ทั้งหลังคาทรงปราสาทและคันทวยที่โค้งรับกัน รวมไปถึงหน้าบันและลวดลายเจดีย์ที่ตกแต่งรอบอุโบสถอีกด้วย สำหรับการมาที่วัดนี้นอกจากจะได้เสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตแล้ว ยังได้ภาพอิ่มเอมใจในความงามของอุโบสถและวิหารวัดกลับไป

หลังจากที่ปั่นเข้าออกวัดที่อยู่รอบนอกบึงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่เราจะได้ปั่นเข้ามาในรั้วบึงแก่นนคร โดยจุดแรกนั้นก็คือตลาดเย็นริมบึง ที่คึกคักไปด้วยพ่อค้าแม่ขายและผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ จากนั้นก็ไปถึงอนุสาวรีย์พระศรีบริรักษ์ หรือท้าวเพี้ยเมืองแพน เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดขอนแก่นผู้มีรกรากมาจากเมืองเวียงจันทร์ เป็นบุคคลสำคัญของจังหวัด ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการริเริ่มกิจการงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เสริมสร้างกำลังใจให้กับทุกคน

.

ปั่นเข้าไปอีกนิดก็จะถึงพิพิธภัณฑ์โฮงมูนมัง สถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของจังหวัด เล่าเรื่องราวผ่านของใช้มากมายที่จัดตั้งอยู่ภายใน “โฮง” ในภาษาอิสานนั้นแปลว่าห้องโถง ส่วน “มูนมัง” หมายถึงสมบัติหรือมรดก สถานที่นี้จึงอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของชาวบ้านชาวบ้านเมืองขอนแก่นในอดีตจนถึงปัจจุบัน

ข้ามฝั่งถนนไปอีกหน่อย เราก็จะพบกับสถานที่อีกหนึ่งความเชื่อที่มีอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่น นั่นคือ ศาลปึงเถ่ากง-ม่า ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของจีน ออกแบบและตกแต่งสถานที่ด้วยรูปแบบงานศิลปะจีน เหล่ามังกรและเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ยังคงดูสวยงาม ถึงแม้ว่าเราจะไปถึงตอนที่ศาลปิดแล้วก็ตามที

นอกจากศาลปึงเถ่ากง-ม่าแล้ว ริมบึงแก่นนครยังมีประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่และอาคารศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน (ขอนแก่น-หนานหนิง) อีกสองสถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยความเชื่อและความสวยงามของศิลปะจีน อาคารสีขาวตัดกับแดงตามความเชื่อเรื่องสีมงคล อาคารเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองเมือง พร้อมด้วยประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่คอยปกปักษ์รักษา มอบความเมตตาและความเจริญให้กับทุกคนที่มาขอพร ทำให้สถานที่บริเวณนี้อบอวลไปด้วยวัฒนธรรมจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดขอนแก่นมานานแสนนาน

ถึงแม้พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ยังคงเดินหน้าปั่นกันต่อเพราะยังเหลืออีกหลายแห่งที่ยังไปไม่ถึง จุดต่อไปที่แวะพักคือวัดเสาเดียว วัดขนาดเล็กที่แสดงถึงความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เพราะภายในประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ร้อยมือพันตา ซึ่งอันเชิญมาจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม อธิษฐานขอพรสำหรับความมั่นคงในชีวิต เช่นเดียวกันกับวัดแห่งนี้ที่ถึงแม้จะมีเพียงเสาเดียว แต่ก็แข็งแกร่งและมั่นคงอยู่ริมบึงแก่นนครตลอดมา

ปั่นลัดเลาะบึงมาอีกนิดก็จะพบกับประติมากรรมปูนปั้นเหล่าไดโนเสาร์มากมายประดับอยู่บริเวณสวนริมบึง โดยพระเอกของบึงแห่งนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าไดโนเสาร์ยักษ์สีเขียวพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส ที่ตั้งเด่นอยู่คู่ป้าย KHONKAEN เชิญชวนให้ทุกคนเข้าไปแชะภาพคู่ เรียกได้ว่าถ้ามาถึงบึงแก่นนครแล้ว หากไม่ได้มาถ่ายภาพคู่กับไดโนเสาร์คู่บ้านคู่เมืองขอนแก่น คงพูดได้ไม่เต็มปากนักว่ามาถึงแล้ว ใช่มั้ยล่ะ

สถานที่สุดท้ายของวันนี้ของพวกเรา คือศาลที่หลายๆคนในทริปรอคอย ซึ่งก็คือ ศาลเจ้าแม่สองนาง ผู้เป็นน้องสาวของพระศรีบริรักษ์ หรือท้าวเพี้ยเมืองแพนเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดขอนแก่น ว่ากันว่าหากใครไม่เคยสมหวังในความรัก หากได้ลองมาขอพรให้สมหวังในเรื่องคู่ครองกับที่นี่ รับรองว่าไม่ผิดหวัง

.

ริมบึงแก่นนครเป็นสถานที่ที่ชาวขอนแก่นต่างก็คุ้นเคยและได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับที่แห่งนี้มานาน แต่ริมบึงแก่นนครยังมีประวัติศาสตร์ที่อัดแน่นอยุ่มากมาย ผ่านสถานที่ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม วัดและศาลเจ้าต่างๆ ที่รอคอยให้ทุกคนเข้าไปค้นหา ถึงแม้จะใช้เวลาช่วงเย็นสั้นๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงกับการปั่นจักรยานในระยะทางสั้นๆนี้ เราได้รู้จักกับสถานที่รอบบึงแก่นนครได้ถึง 12 แห่ง เรียกได้ว่ามาครั้งเดียวก็คุ้มค่า นอกจากจะได้สิริมงคลดีๆกลับไปแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่ที่น่าสนใจของจังหวัดขอนแก่นที่อยากเชิญชวนทุกคนมาใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสนุกๆกันที่นี่

.

ไว้มีโอกาสดีๆ อีกเมื่อไหร่ Ko-on Bike, TCDC และ ททท. ขอนแก่น จะชวนทุกคนไปรู้จักกับขอนแก่นในมุมมองใหม่ๆ อีกครั้ง ใครจะไปรู้ ว่าสถานที่ใกล้ตัวเราจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้