โดย: ครูสอยอ #ก่อการครูขอนแก่น
“ ฉันเข้าใจมาตลอดว่า ภาพพ่นกำแพง คือพวกมือบอน เกรียน และสร้างความสกปรกเลอะเทอะไปเรื่อย มองพวกเค้าเป็นอีกพวกหนึ่ง แต่วันนี้ทำให้ฉันเข้าใจ ว่าสิ่งนั้นมีความหมายอย่างอย่างไร หรืออยากจะสื่อสารอะไร ไม่ว่าจะสวยหรือไม่สวยก็ตาม ฉันรู้สึกเป็นพวกเดียวกันกับเค้ามากขึ้น ”
เมืองขอนแก่น คึกคักด้วยผู้คน และการเปลี่ยนแปลง หลากหลายมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ฯลฯมิติที่เป็นวัฒนธรรมย่อย อย่างด้านศิลปะ โดยเฉพาะ Street Art เป็นที่สนใจในหลายๆพื้นที่ ในประเทศไทย และต่างประเทศ
Street Art สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านกายภาพที่เป็นรูปธรรม คือช่วยทำให้พื้นที่ กำแพง ฝาฝนัง ดูมีสีสันต์ มีชีวิตชีวา และดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสัมผัส และทำให้พื้นที่รกร้าง น่ากลัวดูเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น และการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ ทัศนคติ การให้คุณค่าและสติปัญญา ที่เป็นนามธรรม Street Art จึงเป็นอีก ประเด็นหนึ่งที่เรา กลุ่ม #ก่อการครู ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเอง และต่างพื้นที่ ให้ความสนใจ ใคร่รู้
.
มากกว่าตัวหนังสือพ่นสเปย์ อ่านไม่ออก มากกว่าการพ่นกำแพง ดูสกปรก เลอะเทอะไปเรื่อย มากกว่าภาพสวยๆ เท่ๆ ดึงดูดให้อยากไปถ่ายรูป เก๋ๆ โพสลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค ข้างหลังภาพ หรือเบื้องหลัง ของ ตัวอักษร ภาพ บนกำแพง หรือฝาผนังเหล่านั้น คือสิ่งที่พวกเราสนใจ
.
ข้างๆ ครูคลู ปั่นไปเรียนรู้ กับกูรู STREET ART จึงเกิดขึ้นจากความสนใจ ใคร่รู้ ของกลุ่มครูเล็กๆ ที่เรียกตัวเองว่า #ก่อการครูขอนแก่น ที่ร่วมมือ กับศิลปิน คนทำงาน Street Art ที่มีผลงานทั่วเมืองขอนแก่น ทั่วประเทศ และต่างประเทศ คือ คุณยักษ์ YAK INART และการสนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์นี้จาก Srichan club
.
20 ชีวิต จากหลากหลายอาชีพ และหลากหลายวัย ทั้งครู นักเรียน นักศึกษา ทำงานในภาครัฐ และเอกชน ร่วมทริปปั่นและไปทำความเข้าใจคน เข้าใจเมือง และที่สำคัญเข้าใจตัวเอง ผ่านการปั่น ผ่านงานศิลปะข้างถนน (Street Art) ผ่านการเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และใช้ชีวิตร่วมกัน ในหนึ่งวัน (8.00 – 17.00 น)
.
อากาศเช้าวันนั้น ( เสาร์ ที่ 27 กรกฎาคม)ท้องฟ้าสดใส เย็นสบาย เราเริ่มต้นด้วยการล้อมวงทักทาย รู้จักกัน บอกเป้าหมายของงาน และภาพทั้งวันจะเกิดอะไรขึ้น และเริ่มสตาร์ทการปั่นที่โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย เพราะ Street Art จุดแรกของวันคือผลงานของครูและนักเรียนผู้ร่วมทริปนี้อยู่ที่นี่ ภาพ Street Art ที่นำเอารูปแบบของ ฮูปแต้ม หรือจิตรกรรมฝาผนัง สไตล์ลาวอีสาน มาผสมผสานกับเนื้อหาในยุคปัจจุบันที่เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองขอนแก่น และการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียน
.
จุดที่สองคือ กำแพง อู่ และที่จอดรถบัสอีสานทัวร์ พี่ยักษ์พาพวกเรา เดินชมผลงานตั้งแต่กำแพงแรกยันกำแพงสุดท้าย พี่ยักษ์แนะนำผลงานศิลปินของแต่ละคน และผลงานของตนเอง ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร แต่ทว่าน้ำเสียงที่ดังและมั่นใจ “พื้นที่เหล่านี้ เคยรก และดูน่ากลัวมาก พองานศิลปินเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ มันทำให้พื้นที่ดูเป็นมิตร คนเข้ามาถ่ายรูป มาพูดคุยกับคนในพื้นที่มากขึ้น จากรกด้วยหญ้า และขยะ ก็สะอาดตา ดูปลอดภัย” .
Street Art ชุมชนหนองคู และย่านศรีจันทร์ คือจุดที่ต่อมาของพวกเรา พี่ยักษ์ อธิบายความแตกต่างของ Street Art , กับ Graffiti จุดเริ่มต้น ที่มาที่ไป ประกอบกับการพาเดินชมทีละฝาผนัง ทีละกำแพง แทบทุกซอกซอย พร้อมตอบคำถามพวกเราทุกคำถามด้วยความเต็มใจ นอกจาก Street Art มากมายละลานตา ที่ดึงดูดความสนใจของพวกเรา คือความน่ารักของผู้คน เด็กๆ ในชุมชนที่ เข้ามาทักทาย ชวนดื่มน้ำ และขอถ่ายรูปกับพวกเรา สร้างความประทับใจและรอยยิ้มให้กับพวกเราอยากใช้เวลา ณ จุดนั้นนานขึ้นอีก
.
ตึก โมเดิร์นเมื่อ 60 -70 ปีแล้ว อย่างโรงแรมแกรนด์โฮเทล บอกอดีตที่เคยคึกคัก และรสนิยม ความงามของยุคสมัย เต้าหู้เย็นๆ รสชาติอร่อย หวานกำลังดี ได้กลิ่นหอมถ่านกะลา ในร้านเต้าหู้ 100 ปี ช่วยดับกระหายให้คณะปั่นของพวกเราได้สดชื่น และรื่นรมย์ ด้วยการเดินชมอาคารเก่า และ Street Art ในย่านเก่าศรีจันทร์ ต่อจากนั้นเรายกจักรยานข้ามรั้วเข้าไปชม กุฏิเก่าสไตล์โคโลเนียลที่ซ่อนตัวอยู่หลังวัดศรีจันทร์ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2499 โดดเด่นด้วย ลายปูนปั้น ผสมผสานความเป็นตะวันตก และไทย ได้อย่างลงตัว
.
หลังเมือง ซอย 10 คือ อีก 1 มุมไฮไลต์ ที่เราต้องไปเก็บภาพ และชื่นชมความงาม และความเท่ ของอาคารที่โค้งรับมุม บวกกับ Street Art เพ่นท์ผนังด้วย มักกรยักษ์ใหญ่ จ้องแกะตัวน้อย และรูปดวงตา หน้ายิ้มที่เล่นกับประตู ได้น่าสนใจ อยู่ใกล้ๆกัน คือ Collage Art ภาพนักฟุตบอลทีม รีลมาดริด ดูเท่ และสนุก กับการนับ และตามหาว่ามีใครบ้างในทีมนี้
.
เราปั่นเข้าตรอกนั้น ซอยนี้ ทะลุจนไปถึง กำแพง Street Art ขนาดใหญ่และยาวที่สุดในเมืองขอนแก่น ที่คลองน้ำทิ้งใกล้ห้างแฟรี่ พี่ยักษ์ชวนเข้าไปในซอยใกล้ๆ แกชวนพวกเราไปดู Street War หรือสงครามข้างกำแพง ที่จะเป็นพื้นที่ของการ บอมงานกันอย่างเมามันส์ ซึ่งพี่ยักษ์เล่าอย่างหน้าสนใจว่า คนทำงานศิลปะแนวนี้ ต้องยอมรับ และเข้าใจถึงวิถีการถูกทำลายงานให้ได้ เพราะมันคือความจริงอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป ซึ่งความจริงนี้ มันคือความงามเช่นกัน
.
11.20 นาที เราปั่นกันยาวอีกนิดเพื่อไปยัง MAMAFAKA GALLERY พี่ต่าย และคุณแม่เจ้าของแกลอรี่ ยืนยิ้มตอนรับพวกเรา พร้อมแนะนำเกี่ยวกับที่มาที่ไปของแกลอรี่ และบอกเล่าถึงชีวิต และผลงานของพี่ตั้ม พฤษ์พล มุกดาสนิท กราฟิกดีไซเนอร์ และคนทำงาน ด้าน Street Art ชาวขอนแก่น ชื่อดัง ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานด้านนี้ของเมืองไทยก็ว่าได้ ผู้มีผลงานโดดเด่นมากมาย สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราได้มากๆ
.
เที่ยงนี้พวกซื้ออาหาร Street Food มานั่งล้อมวงทานด้วยกัน ใต้ร่มไม้เย็นๆ ที่สวนสาธารณริมบึงแก่นนคร และร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงภาคเช้าที่เราใช้เวลาร่วมกัน “เอาจริงนะพี่ ผมรู้ว่าขอนแก่นมีของดีซ่อนอยู่อีกมากเลย อย่างพี่ตั้มนี่ เป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับผม ที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ผมทึ่งและชื่นชมเค้ามากครับ “ เสียงของเพื่อนร่วมปั่นของเราที่มาจากมหาสารคาม “พี่รู้สึกว่าพี่เป็นคนขอนแก่นแบบผิวเผินมาก วันนี้เปิดโลกทัศน์ มุมมอง และดึงความทรงจำเก่าๆสมัยเรียนให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง” เสียงสะท้อนของเพื่อนร่วมปั่นอีกคนที่ ใช้เวลาเมืองสมัยเป็นนักเรียนมัธยม และมหาลัยที่ขอนแก่น
.
บ่ายแล้ว หลังเติมพลังด้วยอาหารกลางวัน และนั่งตากแอร์เย็นๆ จิบกาแฟมีแรงปั่นต่อ เราเก็บตก Street Art ย่านถนนรื่นรมย์ และซอกซอยถนนหน้าเมือง จบภาคเสพ งานศิลปะข้างถนน มาเป็นผู้สร้างบ้าง ใน Mini Workshop กันต่อกับพี่ยักษ์ ที่ House of Enemy พี่ยักษ์ชวนพวกเราทำ Street Art บนตึกสูง ลงในกระดาษ ให้วาดรูปและลองออกแบบ สิ่งที่อยากสื่อสารกับคนขอนแก่น หลังจากโดยให้ทำ สรีตอาร์ทจำลองบนตึก ในกระดาษ และแลกเปลี่ยน นำเสนอไอเดียกัน เราชอบช่วงแชร์แนวคิด และการนำเสนอ ชอบที่พี่ยักษ์ ให้คุณค่าของงาน ที่ไอเดีย มากกว่า ความสวย ความงาม ภาพที่ดูเข้าใจง่ายเป็นมิตร มากกว่า เท่ แต่ไม่สื่อสาร
.
เราล้อมวง และสะท้อนความรู้สึก ความคิด และบทเรียน กันทุกคน จากการร่วมกิจกรรม ข้างๆครูคลู ปั่นไปเรียนรู้ กับกูรู Street Art ทุกเสียงของความรู้สึก และทุกความคิดเห็น หรือบทเรียน ออกไปในทางบวกกันหมด ความสนุก การผจญภัยด้วยการปั่นในเมือง บทเรียนข้างหลังกำแพง และมิตรภาพที่ดีร่วมกันของเพื่อนที่คุ้นเคย และพึ่งเจอกันครั้งแรก ทำให้คนจัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีความสุข ประทับใจ เป็นวันที่เติมพลัง และสีสัน ให้กับเมืองขอนแก่น ได้มีความ Cool มีความหมาย และอยู่ในความทรงจำดีๆ อีก 1 วัน
Comments