รีวิวภาพยนตร์โดย วิษณ์ (บอย)
“ความสัมพันธ์” เป็นคำที่ผมนึกขึ้นหลังจากมีโอกาสได้ดูหนังสั้น 3 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องแรก Good by Sun (โดย จักรพันธ์ ชัยศิริ) Romance Dawn (โดย นันทวุธ ภูผาสุข) และ ซ่อนกลิ่น (โดย ทิฆัมพร ภูพันนา) ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนั้นทำให้ผมได้นึกทบทวนถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่รอบล้อมตัวผมอยู่ ทั้งคนแปลกหน้าที่เราได้เจอระหว่างการเดินทาง คนใกล้ชิดที่เคยมีอดีตที่ดีและไม่ดีร่วมกัน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากหน้าที่การงานจนเกิดความคุ้นเคยต่อกัน
นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับสถานที่หรือเมืองก็เป็นอีกหนึ่งความสัมพันธ์ที่บอกเรื่องราวของคน ๆ หนึ่งได้เป็นอย่างดี เราปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้คนกับเมืองล้วนส่งผลถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพที่เลือกทำ ความรู้สึกนึกคิด หรือกิจกรรมยามว่างของคนในพื้นที่นั้น เราอาจจะเป็นคนชอบความสุนทรีย์หากมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่านกลางเมืองดั่งเมืองโรแมนติกหลายที่ในยุโรป เราอาจจะเป็นคนกระตือรื้อร้นมากขึ้นหากเมืองเต็มไปด้วยเหล่าสตาร์ทอัพเข้ามาเปิดบริษัท หรือเราอาจจะเป็นอาชญากรก็ได้หากสภาพแวดล้อมของเมืองไม่เป็นที่น่าอยู่นัก ในทางตรงข้ามคนก็กำหนดทิศทางของเมืองได้เช่นกัน มันจึงยากที่จะแยกว่าคนส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเมือง หรือ สภาพแวดล้อมของเมืองกำหนดการเติบโตของคน
แต่ถึงแม้การเคลื่อนไหวของสังคมเมืองในปัจจุบันเหมือนจะรวดเร็วไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ยังมีบางมุมของสังคมที่กำลังเคลื่อนไหวไปอย่างช้า ๆ การได้หยุดทักทายพูดคุยกับใครสักคน การได้ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การแบ่งปันเรื่องราวที่ยังเกิดไม่เกิดขึ้นให้กับคนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งการเกิดวิกฤตบางอย่างที่ส่งผลให้วิถีชีวิตของเราไม่เหมือนเดิมจนต้องได้ทบทวนถึงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของตัวเองทำให้เรามองเห็นในสิ่งที่เราเคยมองผ่านไปเฉย ๆ
การได้นั่งฟังบทสนทนาของเมย์และปันปันใน “Good by sun” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ได้เดินทางมาเจอกัน การได้รู้จักหนังสือที่เขาอ่าน การได้ร่วมฟังเพลงที่เขาฟังล้วนเปิดเผยตัวตนในมุม ๆ หนึ่งของคน ๆ นั้น การได้เดินทางมาพบกันครั้งแรกนั้นอาจจะเหมือนเรื่องบังเอิญแต่การพบเจอในวันต่อ ๆ ไปนั้นมันก็ขึ้นกับว่าช่วงเวลาที่เราได้เจอกันครั้งแรกนั้นเราได้แลกเปลี่ยนอะไรต่อกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเดินทางและชอบการพูดคุยกับคนแปลกหน้า ผมเลยชอบจังหวะของหนังสั้นเรื่องนี้ มันค่อย ๆ เติบโตจนถึงจุด ๆ หนึ่งที่จะต้องตัดสินใจว่าจะไปต่ออย่างไร
ส่วนหนังสั้นเรื่องที่สอง “Romance Dawn” ทำให้ผมนึกถึงมุกตลกมุกหนึ่งเวลาที่ผมทำของหายหรือหาของไม่เจอ “ตอนแรกก็ยังไม่หายหรอก แต่พอหาไม่เจอ มันก็หายเลย” เวลาเราเอาประโยคนี้ไปพูดกับของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามักจะลืมว่าตัวเองไปวางไว้ที่ไหน เช่น แว่นตา มือถือ หรือกระเป๋าสตางค์ ฟังดูก็พอขำ ๆ ดี แต่หากของที่เราทำหาย คือ ความสัมพันธ์ คงจะไม่น่าขำกันเท่าไร ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงของเมืองดูราวทุกอย่างรวดเร็วไปเสียหมด บ่อยครั้งเราจึงละเลยและหลงลืมความละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนรอบตัว หากโชคดีที่ความหลงลืมนั้นของเราไม่ได้สร้างบาดแผลอะไรขึ้นมาก็คงไม่เป็นไร แต่หากความหลงลืมนั้นกลับสร้างสิ่งที่ปั่นทอนความรู้สึกดี ๆ จนสุดท้ายไม่เหลืออะไรที่เชื่อมโยงระหว่างตัวเรากับใครสักคน ก็คงยากที่จะทำให้เหมือนเดิม
ช่วงที่ผมได้นั่งดูหนังสั้นทั้งสามเรื่องคือช่วงเวลาที่ผมเพิ่งเดินทางกลับจากการไปทำภารกิจที่พัทยาและกรุงเทพฯ พอผมได้ดูหนังสั้นเรื่องที่ 3 “ซ่อนกลิ่น” ผมจึงมีภาพบางอย่างของเมืองขึ้นมา ในช่วงเวลามืดค่ำที่ใครหลาย ๆ คนกำลังกลับจากการทำงาน จากการกินข้าวนอกบ้าน และอาจจะกำลังเตรียมที่จะพักผ่อน แต่ก็มีใครบางคนที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตของตัวเอง เราคงไม่อาจจะอธิบายคำว่าเมืองได้จากสายตาและความรู้สึกนึกคิดจากมุม ๆ เดียวได้ ในสถานที่ที่หนึ่งอาจจะกำลังหลับใหล ขณะที่อีกสถานที่หนึ่งก็กำลังตื่นเช่นกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นและหมุนเมืองให้เคลื่อนไปตามทิศทางของมัน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความฝันและทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองในเมืองนั้น
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่จะได้ใช้สิทธิ์ที่มีนั้นโดยง่าย ทั้งฐานะทางสังคมและต้นทุนของชีวิตที่แตกต่างกันย่อมส่งผลให้ความยากง่ายของการเลือกเส้นทางนั้นแตกต่างกัน “ซ่อนกลิ่น” เป็นหนังสั้นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมชอบจังหวะและการเล่าเรื่อง การฉายให้เห็นภาพบางภาพที่คนบางกลุ่มอาจจะไม่รู้เรื่องว่ามีมุมแบบนี้อยู่ในสังคมเมืองของเรา ในช่วงเวลาที่เมืองหลับใหล ดอกไม้หลายชนิดเลือกที่จะปิดตัวเองแต่ซ่อนกลิ่นกลับเป็นดอกไม้เพียงไม่กี่ชนิดที่มักจะปล่อยกลิ่นของมันในช่วงเวลาแบบนี้ ช่วงเวลาของมันเอง
หนังสั้นทั้ง 3 เรื่องถ่ายทำโดยใช้ย่านศรีจันทร์ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นเป็นโลเคชั่นหลัก ซึ่งย่านศรีจันทร์เป็นย่านเก่าแก่ของจังหวัดขอนแก่น มีเรื่องราวและความทรงจำของคนหลายรุ่นรวมอยู่ในที่ที่เดียวกัน ตลอดสองข้างถนนจะมีทั้งภาพโทนสีซีเปียของความดั้งเดิมจนไปถึงโทนสีฉูดฉาดของความทันสมัย การตีความของผู้กำกับทั้ง 3 คนสามารถเป็นตัวแทนของอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ หากสังเกตการเคลื่อนไหวของเมืองผ่านบทสนทนาของตัวละครในเรื่อง Good by sun ตั้งแต่สถานีรถไฟขอนแก่นในช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก อาชีพการทำงาน บทบาทของตัวละครในเรื่องซ่อนกลิ่น และการเอาตัวรอดของคน ๆ หนึ่งในเรื่อง Romance Dawn ที่เกิดขึ้นในเวลากลางคืน จะมีการฉายภาพของย่านศรีจันทร์ได้อย่างหลากหลายทั้งความวุ่นวายแบบเมือง ๆ และความเงียบเหงาแบบชานเมือง หากจะหยิบสถานที่ใดสถานที่หนึ่งมาเป็นตัวแทนเพื่อบอกเล่าเรื่องราววันและเวลาของอดีตจนถึงปัจจุบัน ย่านศรีจันทร์น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
อย่างที่ผมเขียนไว้ในบรรทัดแรกว่า “ความสัมพันธ์” เป็นคำแรกที่ผมนึกถึงหลังจากมีโอกาสได้ดูหนังสั้นทั้ง 3 เรื่องและยิ่งได้มาเขียนถึงความรู้สึกจากการดูหนังทั้ง 3 เรื่องมันทำให้ผมได้กลับไปทบทวนบางสิ่งที่มากกว่าหนังทั้งสามถ่ายทอดออกมา ในกระแสวังวนของปัจจุบันเราใช้จ่ายวันเวลาไปกับการติดตามเรื่องราวมากมายที่เข้ามา การเมือง สังคม และความบันเทิง จนหลายครั้งเราลืมเงยหน้ามองดูสิ่งรอบตัว ทั้งคนใกล้ชิด คนรอบตัว และเมืองที่เราอยู่ เราอาจจะไม่เห็นเลยว่าสิ่งเหล่านั้นกำลังหมุนและเคลื่อนไหวไปทางใด ลองสังเกตและให้เวลากับความช้าสักนิดเพื่อเราจะได้รู้จักและไม่รู้สึกแปลกแยกจากสิ่งรอบตัวที่เราอยู่ ณ ตอนนี้
ประวัติผู้เขียน:
วิษณ์(บอย) เป็นอาจารย์สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ยามว่างชอบเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับการเดินทาง และเคยเขียนคอลัมน์ “คนแปลกหน้า” ลงในนิตยสาร GM ปัจจุบันชอบจัดทริปชวนเพื่อน ๆ เข้าป่าและเดินเขาด้วยกัน
Comments