top of page
Writer's pictureSRICHAN CLUB

“ศรีจันทร์วันวาน”




เรื่องโดย ภารดี ตั้งแต่ง



“ศรีจันทร์วันวาน” กิจกรรมสร้างสรรค์เล่าเรื่องเมืองเก่าขอนแก่น ได้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ณ บริเวณหลังบ้านรวมทวี ถนน 5 พฤศจิกา อ.เมืองขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00น. เป็นงานกิจกรรมน่ารักอบอุ่นที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันอย่างต่อเนื่องของสมาชิกโครงการย่านสร้างสรรค์ศรีจันทร์ และเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวสมาชิกชมรมศรีจันทร์คลับ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนโครงการย่านสร้างสรรค์ศรีจันทร์ตลอดปีที่ผ่านมา ผ่านกิจกรรมโครงการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องและหลากหลาย


งาน “ศรีจันทร์วันวาน” ที่ได้จัดขึ้นในครั้งนี้ จัดขึ้นด้วยความ “สนุกนึก” หลายประการของทีมงาน นอกจากจะเป็นพื้นที่ให้เพื่อนพ้องน้องพี่สมาชิกศรีจันทร์คลับได้มารวมตัวกันเพื่อนำเสนอและอัพเดทข้อมูลข่าวสารกิจกรรมที่สำคัญต่าง ๆ ที่วางแผนจะจัดขึ้นในปีใหม่นี้แล้ว ยังเปิดพื้นที่เพื่อต้อนรับสมาชิกหน้าใหม่จากหลากหลายองค์กรที่จะได้เข้าร่วมเป็นขุมพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนงานของชมรมต่อไปอีกด้วย


งานในครั้งนี้จัดขึ้นในพื้นที่อู่รถเก่าของบ้านรวมทวี ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง อากาศเย็นสบาย จัดตกแต่งเป็นแนวย้อนยุค ประกอบไปด้วยนิทรรศการภาพถ่ายเก่า ๆ ตลอดจนข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ในอดีต เพื่อเปิดเวทีให้สมาชิกมาตุ้มโฮม “ปูสาด ฉายภาพเก่า เล่าเรื่องเมืองขอนแก่น แลกเปลี่ยนแนวคิด ร่วมคิดร่วมสร้าง ย่านเมืองน่าอยู่ของเรา” กิจกรรมในงานนอกจากการประชุมย่านสร้างสรรค์ศรีจันทร์แล้ว ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่การพบปะเสวนาเล่าเรื่อง “ขอนแก่นย่านธนาคารและเศรษฐกิจแห่งแรกของอีสาน”



โดยได้เรียนเชิญผู้หลักผู้ใหญ่ นักธุรกิจรุ่นบุกเบิกที่เป็นที่เคารพของลูกหลานชาวขอนแก่นจำนวน 4 ท่าน 4 เจนเนอเรชั่น ได้แก่ คุณชัยภณภัทร ลี้ดำรงประเสริฐ จากห้างหุ้นส่วนจำกัด ขอนแก่นทองไทย คุณศิริ แก่นศักดิ์ศิริ จากบริษัท ไทยพิพัฒน์ฮารด์แวร์ จำกัด คุณนรินทร์ อภิชนตระกูล บริษัท เคี้ยงขอนแก่น จำกัด และคุณทัศนีย์ ตั้งพัฒนาศิริ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งผู้ใหญ่ทั้ง 4 ท่านนี้ได้ใช้ชีวิตพำนักอยู่ที่เมืองขอนแก่นนี้มามากกว่า 50 ปี ให้มาเป็นผู้เล่าเรื่องความเป็นมาของขอนแก่นและย่านเศรษฐกิจของขอนแก่นในอดีตผ่านความทรงจำของท่าน ดำเนินรายการโดย คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย


ความน่าสนใจในการเสวนาในครั้งนี้อยู่ที่เรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่นที่ได้เล่าผ่านสายตาของผู้หลักผู้ใหญ่ทั้ง 4 ท่าน ซึ่งน่าแปลกที่ทุกท่านเหล่านี้ต่างไม่ใช่คนที่มีพื้นเพดั้งเดิมเป็นชาวจังหวัดขอนแก่นเลยแม้แต่ท่านเดียว หากโชคชะตาพรหมลิขิตก็ได้นำพาให้ทุกท่านได้ย้ายมาตั้งรกราก ลงหลักปักฐาน สร้างเนื้อสร้างตัวอย่างเจริญรุ่งเรืองอยู่ที่ขอนแก่นมากกว่า 50 ปีแล้ว จนสามารถเรียกได้แล้วว่าทุกท่านเป็นชาวขอนแก่นทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ นอกจากนี้ท่านยังได้ร่วมกันทิ้งท้ายเป็นข้อคิดเคล็ดลับแห่งความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จสำหรับลูกหลานชาวขอนแก่นอีกด้วยว่า จง “ซื่อสัตย์ ขยัน และอดทน” อยู่เสมอ


“ขอนแก่นเป็นเมืองที่น่าอยู่จริงๆ อยู่สบายมาก ไม่มีน้ำท่วม ไม่มีแผ่นดินไหว ขอฝากให้ทุกท่านช่วยพัฒนาขอนแก่นกันให้เจริญด้วยคุณธรรม จริยธรรม โดยใช้ความซื่อสัตย์และรู้จักบุญคุณของผู้ทีพระคุณเป็นหลัก” คุณศิริ แก่นศักดิ์ศิริ จากไทยพิพัฒน์ฮารด์แวร์ ได้ฝากไว้ทิ้งท้ายก่อนจบการเสวนาในครั้งนี้

อีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นที่ตั้งตารอของผู้ร่วมงานทุกท่านคือ กิจกรรม “ฉายภาพเก่า เล่าเรื่อง” นำแสดงภาพถ่ายเก่า ๆ ของเมืองขอนแก่นและเล่าเรื่องโดย รศ.ดร.รวี หาญเผชิญ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยกิจกรรมนี้ได้สร้างความคึกคักครื้นเครงแก่ลูกหลานชาวขอนแก่นที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก และเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ร่วมแสดงความคิดเห็น แบ่งปันประสบการณ์จากความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่าง ๆ ในภาพถ่ายเก่า ๆ เหล่านั้น แม้ว่าภาพถ่ายหลายภาพจะรางเลือนไปด้วยกาลเวลา และอาจจะยังมีความคลุมเครือเป็นที่ถกเถียงในเรื่องการระบุตำแหน่งแห่งที่หรือประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดที่ถูกต้อง แต่การที่สมาชิกทุกท่านได้มาร่วมแบ่งปัน นำเสนอความคิด และร่วมนำเสนอมุมมองผ่านประสบการณ์ส่วนตัวของตน ก็ทำให้บรรยากาศการเล่าเรื่องเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความน่าตื่นตาตื่นใจ และที่สำคัญที่สุด คือการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกหลานชาวขอนแก่นรุ่นใหม่ ที่ได้มารู้จักประวัติศาสตร์ของบ้านเกิดเมืองนอนผ่านประสบการณ์ของผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน เพื่อที่จะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจและความสนใจที่สืบสานและเผยแพร่เรื่องราวเก่าแก่ของเมืองขอนแก่นต่อไป



จากเอกสารพงศาวดารอีสานฉบับพระยาขัติยวงศา (เหลา ณ ร้อยเอ็ด) ได้กล่าวถึงการตั้งเมืองขอนแก่นเมื่อปี 2340 ไว้ว่า “...ได้ทราบข่าวว่าเมืองแพน บ้านชีโล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ พาราษฎร ไพร่พลประมาณ 330 คน แยกจากเมืองสุวรรณภูมิไปขอตั้งฝั่งบึงบอนเป็นเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น...” ผ่านมาจนกระทั่งจังหวัดขอนแก่นได้จัดเฉลิมฉลองครบรอบ 222 ปี ไปเมื่อปลายปี 2562 เมืองขอนแก่นได้ก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย จากหัวเมืองอีสานในอดีตที่ลือชื่อในเรื่องของความอัตคัตแห้งแล้งจนเป็นเหตุให้คนกรุงเทพในยุคแรกที่เพิ่งย้ายมาตั้งรกรากที่เมืองขอนแก่น ต้องหอบหิ้วเอาน้ำใส่หม้อใส่ถังติดตัวมาด้วยด้วยเกรงว่าจะไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ มาจนกลายเป็นเมืองที่ปักหมุดหมายแห่งการเติบโตให้เป็นเมืองแห่ง MICE และ Smart City ที่มีประชากรเกือบสองล้านคนในวันนี้ ถ้าเปรียบจังหวัดขอนแก่นเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ขอนแก่นในวันนี้ได้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรงทั้งกายและใจ และยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อไปอีกอย่างเข้มแข็ง




ความทรงจำวันวานของพวกเราทุกคนเป็นเหมือนกันกาวที่ยึดโยงชีวิตของพวกเราเอาไว้ สิ่งที่เรา เป็น อยู่ คือ ในปัจจุบันเกิดมาจากการสะสมองค์ความรู้ผ่านความทรงจำอันมีคุณค่า จะว่าไปแล้วมนุษย์เรานี้ก็คือสิ่งมีชีวิตแห่งการสั่งสมข้อมูล และความทรงจำของพวกเราก็คือจุดกำเนิดทั้งหมดทั้งมวลของชีวิตที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง “ศรีจันทร์วันวาน” จึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการถ่ายทอดองค์ความรู้จากความทรงจำของคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง เพื่อที่ว่าในที่สุดแล้ว “ศรีจันทร์” จะไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่แห่ง “วันวาน” ที่มีเพียงแต่เรื่องราวในอดีตที่ล่วงเลยผ่านไป แต่จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของ “วันนี้” ที่ยังคงรักษาสืบสานเรื่องราวในอดีตไปพร้อม ๆ กับการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งตามวิถีครรลองของธรรมชาติ... อย่างมั่นคง


130 views0 comments

Comments


bottom of page